ตอนนี้เรามาดูวิธีการเลือกปุ๋ยที่ดีกันว่า ปุ๋ยที่มีคุณภาพนั้นต้องเลือกอย่างไร เพราะปุ๋ยดีก็จะนำไปสู่การมีประสิทธิภาพของการใช้ปุ๋ยอย่างคุ้มค่าครับ มี 2 ประเภท คือ
1. การเลือกซื้อปุ๋ยเคมี ซึ่งในท้องตลาดก็จะมีอยู่หลายประเภท เช่น แม่ปุ๋ยต่าง ๆ , ปุ๋ยสูตร และเคมีอินทรีย์ นอกจากนี้ยังแยกเป็นปุ๋ยคอมปาน์ว (Compound) คือ ในกระสอบมีลักษณะเม็ดปุ๋ยเป็นเนื้อเดียวกันทุกเม็ด และมีสีเดียวกัน และอีกประเภทก็คือผสมแยกเม็ด (Bended) ในกระสอบเดียวกันจะมีเม็ดปุ๋ยแตกต่างกันคนละสีกัน แต่ละเม็ดมีธาตุอาหารแตกต่างกัน ซึ่งในการใช้งานปุ๋ยประเภทนี้จะด้อยกว่าเพราะสูตรอาจจะเพี้ยนได้ตลอดเวลา แล้วทีนี้เรามาดูวิธีเลือกซื้อกัน การเลือกซื้อปุ๋ยต้องซื้อให้ตรงตามพืช และช่วงเวลาของพืชว่ากำลังเจริญเติบโตอยู่ในช่วงไหน เช่น ในผลไม้ต่าง ๆ ช่วงบำรุงต้นหลังจากการเก็บเกี่ยวต้องบำรุงต้นใช้สูตรเสมอ เช่น 15-15-15 , 16-16-16 เป็นต้น และช่วงก่อนการเก็บเกี่ยว 1 เดือน ให้ใช้สูตรบำรุงผล เช่น 14-14-21, 13-13-21 เป็นต้น หรือถ้าเป็นพืชไร่ก็จะใช้สูตรที่แตกต่างกันไป ซึ่งจะต้องศึกษาเพิ่มเติมตามลักษณะของพืชนั้น ๆ นอกจากนี้ปุ๋ยเคมีแต่ละยี่ห้อก็จะใช้ปุ๋ยที่โครงสร้างทางเคมีแตกต่างกัน เช่น ปุ๋ยยูเรีย 46-0-0 , แอมโมเนียซัลเฟต 15-0-0 แอมโมเนียไนเตรต 21-0-0 ฯลฯ ซึ่งมีราคาที่แตกต่างกันออกไป และการเลือกใช้ก็ต้องให้เหมาะกับดินของเราด้วยว่าเป็นดินประเภทไหน ซึ่งสามารถศึกษาเพิ่มเติมจากเรื่องดินและปุ๋ยต่อไป ดังนั้นการเลือกใช้ปุ๋ยเคมีจึงสำคัญต้องใส่ปริมาณน้อย ๆ ตามความจำเป็นเท่านั้น ส่วนปุ๋ยอินทรีย์ต้องใช้เป็นอาหารหลักของพืช โดยเฉพาะพืชยืนต้น
2. การเลือกซื้อปุ๋ยอินทรีย์ นั้นจำเป็นอย่างยิ่งต้องรู้ถึงแหล่งที่มา, วัตถุดิบหลักที่ใช้ในการผลิตและคุณลักษณะทางกายภาพ เช่น กลิ่น เป็นผงหรือเม็ด ถ้าเป็นเม็ดต้องเบามือ ถ้าเป็นผงส่วนมากจะมาจากโรงงานน้ำตาล หรือหมักจากพืช แต่ที่ต้องดูเพิ่มก็คือ ที่กระสอบเขียนว่าปุ๋ยอินทรีย์หรือไม่ และมีเลขทะเบียนหรือไม่ ถ้ากระสอบเขียนว่าสารปรับปรุงดิน , สารเสริมประสิทธิภาพ, สารเพิ่มผลผลิต อันนี้ไม่ใช่ปุ๋ยอินทรีย์เป็นพวกสารปรับโครงสร้างดินประเภทยิปซัม, โดโลไมล์ ,ปูนมาร์ล ฯลฯ ปุ๋ยอินทรีย์ที่ดีนั้นต้องมีแร่ธาตุหลายชนิดใช้วัตถุดิบที่ได้จากธรรมชาติไม่ใช่กากอุตสาหกรรมใช้แล้วสามารถเพิ่มผลผลิตได้จริง ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตทุกชนิด ปัจจุบันปุ๋ยอินทรีย์ได้มีการพัฒนาขึ้นมากจนมีประิทธิภาพเทียบเท่าปุ๋ยเคมีในด้านธาตุอาหาร มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภคและยั่งยืนในระยะยาว ซึ่งปุ๋ยอินทรีย์ที่มีนวัตกรรมนั้น ต้องส่งเสริมให้พืชสามารถหาอาหารและสร้างอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งนวัตกรรมเหล่านี้ได้รับการพัฒนามาต่อเนื่อง เช่นในเวลาที่ปริมาณแสงน้อย พืชไม่สามารถสังเคราะห์แสงและสร้างอาหารได้ก็มีฮอร์โมนไซโตไคนินไปกระต้นให้ปากใบเปิดและสามารถสังเคราะห์แสงได้ ทำให้สามารถเพิ่มผลผลิตได้เป็นเท่าตัวเพราะใบด้านล่างที่โดนแสงน้อยสามารถสร้างอาหารได้ด้วย นอกจากนี้ยังสามารถละลายธาตุอาหารที่อยู่ในดินออกมาเสริม ทำให้พืชสามารถมีธาตุอาหารทุกชนิดและมากพอตลอดเวลา 24 ชั่วโมง ต้นไม้จึงสมบูรณ์แข็งแรงให้ผลผลิตสูงและไม่เป็นโรคได้ง่าย ปุ๋ยไซโต คือปุ๋ยที่มีนวัตกรรมสมบูรณ์แบบเพื่อทุกคนมีความมั่นคงในระยะยาวและ ลดต้นทุนเพิ่มผลผลิตคือทางรอดของเกษตรกรยุคปัจจุบัน