เมื่อชีวิตในปัจจุบันที่แสนจะรีบเร่ง ใช้ชีวิตอย่างเร่งด่วนไปในทุก ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็น การกิน การเดินทาง การท่องเที่ยว หรือจะเป็นการใช้ชีวิตต่าง ๆ ก็มองหาคำว่า สะดวก รวดเร็ว ทำให้ทุกชีวิตไม่ว่าจะเป็นในเมืองใหญ่ หรือผู้คนในที่ต่าง ๆ ก็เน้นย้ำกับคำว่า ด่วน ด่วนมาก ด่วนที่สุด และท้ายที่สุดแล้วจบลงกับปัญหาสุขภาพ และมุมมองความคิดในช่วงไม่นานมานี้ ผู้คนหันมาใช้ชีวิตในรูปแบบใหม่ที่เรียกกันว่า Slow Life ช้าๆ ค่อยๆ ไป ค่อยๆ ทำ และมองว่าการทำอะไรช้าจะช่วยให้อะไร ๆ มันดีขึ้นนั่นเอง และหลายคนก็เลือกที่จะหันหลังให้กับชีวิตในเมืองใหญ่ ชีวิตที่เร่งรีบ และเลือกที่จะกลับสู่วิถีดั้งเดิมของไทย นั่นก็คือ การเกษตร หรือ เกษตรกร ในอดีตนั้นอาชีพเกษตรกรมักจะถูกมองว่า เป็นอาชีพที่เป็นพลเมืองชั้นสอง อาชีพแรงงาน อาชีพที่เหนื่อยและมักจะกินทุน รวมไปถึงไม่ก่อเกิดกำไร บางรายยิ่งทำก็เหมือนยิ่งถดถอย ไม่ว่าจะสภาพดิน ฟ้า อากาศที่ไม่เอื้ออำนวย ฝนแล้ง น้ำน้อยก็ขาดทุนกันไปเป็นจำนวนมาก แต่การเรียนรู้และศึกษา รวมไปถึงการทำเกษตรแบบแนวใหม่ ที่เปลี่ยนไปจากเดิมนั้น กลับพลิกอนาคตเกษตรกร กลายเป็นนักธุรกิจ กลายเป็นอาชีพที่ประสบความสำเร็จเป็นจำนวนมาก ทำอย่างไรที่จะประสบความสำเร็จ แบบเกษตรกรรุ่นใหม่กันบ้าง
1. จัดทำแหล่งเรียนรู้ ศึกษาธรรมชาติ?/ ทำโฮมสเตย์ ในอดีตนั้นการทำการเกษตรของเกษตรกรก็คือการทำ ลงแรง ลงเงิน บางคนก็เรียนรู้ต่อๆ กันมา จากรุ่นสู่รุ่น ทำแบบดั้งเดิมจนเป็นแบบแผน แต่ไม่มีใครที่จะศึกษาและเรียนรู้อย่างจริงจัง เมื่อฝนแล้ง น้ำไม่พอ หรือเจอปัญหารูปแบบไหนจะแก้ไขอย่างไร บางครั้งจะรอให้เกษตรจังหวัด นักพัฒนา นักวิชาการมาช่วยแก้ไข มาช่วยดูแล แต่หากมีความรู้และศึกษาอย่างจริงจังแล้วนั้น ก็สามารถจัดสวน จัดไร่ จัดนาให้กลายเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ เป็นต้นแบบให้แก่เกษตรกรท่านอื่น เป็นแหล่งศึกษาให้นักเรียน นักศึกษาและผู้ที่สนใจ นอกจากนี้ยังจัดเป็นที่พัก ที่อาศัยให้กับนักท่องเที่ยวได้เรียนรู้ธรรมชาติ เพื่อเป็นการเพิ่มรายได้ที่ดีอีกด้วย
2. การขายอุปกรณ์การเกษตร?/ ขายปุ๋ย เครื่องมือและวัสดุในการเกษตร เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเกษตรกรทุกคน แต่หากเราหาช่องทางในการขายอุปกรณ์และเครื่องมือทางการเกษตรได้ ก็จะสามารถเพิ่มรายได้ได้อีกทางหนึ่ง และมากไปกว่านั้น การทำปุ๋ยชีวภาพใช้เองได้นั้น ก็จะสามารถประหยัดต้นทุนในการจ่ายเงินเพื่อรักษาและบำรุง เมื่อเห็นผลลัพธ์ที่ได้ ช่องทางหนึ่งที่ไม่ควรพลาดคือ การขาย ก็จะสามารถสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรได้เช่นเดียวกัน
3. การทำเกษตรแบบสวนกระแส?ในหลายครั้งนั้นเกษตรกรมักจะมองหาและลงทุนในการปลูกพืชเศรษฐกิจ พืชที่ขายได้ราคาในช่วงนั้น แต่หารู้ไม่ว่า หากทำเช่นนั้นแล้ว ไม่ว่าจะเป็นราคา หรือความเสียหายที่เกิดขึ้นจะตามมาเป็นจำนวนมาก เพราะพืชผลนั้นล้นตลาด และมักกดราคากันเอง จนท้ายที่สุดแล้วก็ไม่ได้มีราคาสูงแต่อย่างใด รวมไปถึงการทำเกษตรในรูปแบบดังกล่าว หากมีความเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นโรคพืช ปัญหาทางธรรมชาติ ฝนแล้ง น้ำน้อย ก็สร้างความเสียหายได้ ดังนั้นการทำเกษตรแบบสวนกระแส ก็จะเป็นคำตอบที่จะช่วยให้พืชผลมีราคาไปตามกลไกการตลาด และอาจจะเพิ่มมูลค่าของสินค้าได้ยิ่งขึ้นนั่นเอง
4. การทำเกษตรแบบไม่เน้นขาย?อ่านประโยคนี้จบ คงมีผู้อ่านหลายท่านกลับไปอ่านใหม่อีกครั้งเพื่อความแน่ใจ อยากรวยจากการเกษตร แล้วถ้าไม่ขายจะรวยได้อย่างไร แน่นอนค่ะว่า หากเราขายพืชผลทางการเกษตร จะทำให้เรามีรายได้เพิ่มขึ้นจากการขาย แต่อย่าลืมสิคะว่า เราก็จำเป็นต้องซื้อสินค้า เพื่อกิน เพื่อใช้เช่นเดียวกัน ดังนั้น หากมีอะไรที่เราสามารถจะปลูกกินเองได้ ไม่ว่าจะเป็นผักสวนครัว ผลไม้บางชนิด ก็แบ่งที่ดินบางส่วนมาปลูกไว้กิน ไม่ซื้อเขา บางทีอาจมีเหลือถึงขั้นขาย และเป็นมูลค่าตอบแทนในอนาคตได้เช่นเดียวกันนั่นเอง
ข่อมูลจาก : สยามอาชีพ