วิธีการปลูกดาวเรือง
เนื่องจากดาวเรืองนั้นเป็นไม้ตัดดอกที่ได้รับความนิยมในการนำไปใช้งานอย่างหลากหลาย ส่งผลให้ปัจจุบันมีเกษตรกรนิยมการปลูกดาวเรืองมากขึ้น? ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้
??????????????? 1. การเตรียมดิน? หากพื้นที่ในการปลูกดาวเรืองมีลักษณะเป็นดินเหนียวหรือดินทรายให้ทำการปรับโครงสร้างของดินเพื่อให้มีความร่วนซุยในระดับหนึ่งก่อน หลังจากนั้นใส่ปุ๋ยอินทรีย์ไซโต? 1? ไร่/ 1 กระสอบ
??????????????? 2. การเพาะเมล็ดและการดูแลรักษาต้นกล้าที่ดี? ?หมายถึงช่วงที่ต้นกล้ายังอยู่ในถาดเพาะหรืออายุไม่เกิน 20 วัน ก่อนการปลูกลงแปลง หากต้นกล้าในช่วงนี้มีการเจริญเติบโตที่ดีสมบูรณ์แข็งแรง มีใบจริง 2-3 คู่ หลังจากการปลูกลงแปลงการเจริญเติบโตก็จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่หากต้นกล้าแคระแกร็น เล็กบ้าง ใหญ่บ้าง การเจริญเติบโตหลังจากปลูกลงดินจะเกิดขึ้นได้ช้าและไม่สม่ำเสมอ ซึ่งหลักการผลิตต้นกล้าดาวเรือง การเพาะเมล็ดและการดูแลต้นกล้าก่อนปลูกลงแปลงมีความจำเป็นที่เกษตรกรควรเอาใจใส่ดูแลเป็นพิเศษ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง ?หน้าฝน?? สิ่งสำคัญในการเพาะเมล็ดดาวเรืองจำเป็นที่จะต้องมีหลังคาเพื่อช่วยป้องกันต้นกล้าไม่ให้ได้รับความกระทบกระเทือนจากน้ำฝนโดยตรง โดยทั่วไปหลังคาโรงเรือนควรมีความสูงประมาณ 2 เมตร ขึ้นไป เพราะหากหลังคาหรือโรงเรือนกล้าต่ำเกินไปจะทำให้อุณหภูมิภายในโรงเรือนสูง มีผลต่อการเจริญเติบโตของต้นกล้าได้ และเพื่อให้มีการถ่ายเทอากาศที่ดี รอบโรงเรือนอาจจะกั้นด้วยตาข่ายไนล่อนก็ได้ ซึ่งจะช่วยป้องกันแมลงกัดกินต้นกล้าได้อีกทางหนึ่ง
3. การฉีดยาป้องกันแมลงหรือเชื้อราอย่างสม่ำเสมอ?? หลังจากปลูกลงแปลงหากเป็นได้เกษตรกรควรมีการวางแผนการฉีดยาไว้ก่อนล่วงหน้า เช่น 1? สัปดาห์ควรทำการฉีดยาป้องกันกำจัดแมลงและเชื้อราอย่างน้อย 1 ครั้ง เนื่องจากโรคที่เกิดกับดาวเรืองบางชนิดเมื่อเกิดแล้ว เช่น โรครากเน่า โคนเน่า โรคเหี่ยว จะมีการป้องกันและแก้ไขที่ค่อนข้างจะยาก การจัดการโรคดังกล่าวโดยทั่วไปมักใช้วิธีการป้องกันตั้งแต่เริ่มปลูก หรือแม้กระทั่งโรคที่เกิดกับใบและดอกก็เช่นเดียวกัน วิธีการป้องกันจะเป็นการช่วยลดความเสี่ยงที่ทำให้ผลผลิตได้รับความเสียหายได้อย่างดีที่สุด
4. การพูนโคนดาวเรืองอย่างน้อย 2 ครั้ง? เนื่องจากในส่วนลำต้นของดาวเรืองสามารถมีการแตกรากออกมาได้อีกส่วนหนึ่ง หากนำดินมากลบโคนก็จะทำให้รากของดาวเรืองสามารถที่จะแตกรากออกมาได้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้การหาอาหาร การดูดน้ำเพิ่มขึ้น การเจริญเติบโตก็จะเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน โดยปกติแล้วหลังจากดาวเรืองเริ่มให้ดอกในเดือนที่ 2 หากไม่มีการให้ปุ๋ย ให้น้ำ และฉีดยา เกษตรกรสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ประมาณ 3 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับสภาพดินและสภาพอากาศด้วย แต่ถ้าหลังจากดาวเรืองให้ดอกเกษตรกรมีการใส่ปุ๋ยอิทรีย์ไซโตอีก 1 ครั้ง โดยใช้อัตราส่วน 1 ไร่ต่อ 1 กระสอบและมีการพรวนดินพูนโคน ?ฉีดยา ให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ ดาวเรืองจะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ยาวนานเดือนครึ่งถึง 2 เดือน หรืออาจเก็บเกี่ยวได้ถึง 2 เดือนครึ่ง ? 3 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมในขณะนั้น และปัจจัยทางการผลิตของตัวเกษตรกรเอง
